2-2 มนุษย์ประกอบด้วยร่างกายและวิญญาณ

บทที่ 2 “ผีอำ” ประตูลับสู่โลกวิญญาณ

2-2 มนุษย์ประกอบด้วยร่างกายและวิญญาณ

ในวงการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองไทย แพทย์ยังไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่า อาการที่ร่างกายเคลื่อนไหวไม่ได้จากผีอำนั้นเกิดจากอะไร? สาเหตุเพราะแพทย์สมัยใหม่ที่ว่าเจริญแล้ว ไม่ได้เจริญจริง เนื่องจากยังไม่ยอมรับว่า ชีวิตของมนุษย์ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ได้แก่ร่างกายและก็วิญญาณ มัวไปคิดว่ามีแค่ร่างกายอย่างเดียว มีหมอบางคนไปบอกคนไข้อย่างไม่มีหลักการ พูดง่ายๆก็คือมั่วนิ่มว่า ผีอำเป็นการนอนทับเส้นตัวเอง ซึ่งคนไข้ที่ไปหาหมอต่างคนต่างก็รู้อยู่กับใจว่าไม่ใช่ เพราะเขาเหล่านั้นต่างมีอาการแทรกซ้อนบางอย่างเกิดขึ้นร่วมด้วย เช่น บางคนบอกว่า เหมือนมีใครสิงอยู่ในตัวเขา บางคนก็ยืนยันว่าถูกผีนั่งทับ เพื่อนผมยืนยันว่า มีเปรตที่มีเสียงแหลมบินผ่านเลยหัวไป บางท่านก็ยืนยันว่ามีผีกดแขน เป็นต้น

ตราบใดที่แพทย์ยังไม่ยอมรับว่า ชีวิตของมนุษย์ประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือร่างกายและก็วิญญาณ ตราบนั้นเขาก็จะยังไม่พบวิธีรักษาอาการผีอำ หมอต้องหัดฟังและเชื่อคนไข้บ้าง ไม่ใช่พอคนไข้ยืนยันว่าผีอำเป็นเรื่องของผี ก็โดนหมอหาว่าไร้สาระและจิตหลอนซะแล้ว

ประเทศที่นับถือพุทธศาสนา เช่น ในเมืองไทย น่าจะมีคนไข้ที่เป็นโรคผีอำมากกว่าในประเทศที่นับถือศาสนาอื่น เป็นผลมาจากพุทโธโลยีที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบเรื่องภพภูมิของวิญญาณ ทำให้มีคนทำบุญตักบาตรและอุทิศผลบุญให้ผู้ตายจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าและศาลพระภูมิคอยอัญเชิญให้วิญญาณเข้ามาอยู่เต็มเกลื่อนไปหมด ในขณะที่ศาสนาอื่นยังไม่ค่อยรู้เรื่องนี้เลย และไม่ยอมรับพุทโธโลยีของชาวพุทธด้วย ทำให้วิญญาณที่ยังคงวนเวียนอยู่ในประเทศไทย มีมากกว่าวิญญาณในประเทศอื่นๆที่ไม่ได้นับถือพุทธศาสนา เมื่อจำเป็นวิญญาณเหล่านี้ก็ใช้การอำหรือการรบกวนทางวิญญาณ เพื่อให้ผู้คนทำบุญทำทานให้พวกเขา

ท่านลองไปถามคุณหม่ำ ดูซิครับ เพราะเขาก็ถูกผีอำมาไม่น้อย มีท่านที่ไม่รู้เรื่องไปกรอกหูเขาว่า เขานอนทับเส้นตัวเอง กรอกหูจนเขาแทบจะหลงเชื่อ เพียงแต่ว่าเขามีอาการอย่างอื่นที่ผมกล่าวถึงร่วมด้วย เขาเลยไม่เชื่อ ตัวเขาย่อมต้องรู้ดีว่าผีอำเป็นเรื่องของผีจริงๆ แต่เขาอยู่ในภาวะสับสนจากคำพูดของคนอื่น ดังนั้นเขาจะยอมรับหรือไม่ว่าผีอำเป็นเรื่องของผี อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ท่านต้องไปถามเขาเอาเอง

วิทยาการสมัยใหม่ทั้งหมดเป็นการเจริญด้านวัตถุอย่างเดียว แต่แก้ปัญหาที่เกี่ยวกับวิญญาณไม่ได้ ผมหวังว่า หนังสือเล่มนี้จะเปิดหูเปิดตานักวิทยาศาสตร์ไทยได้บ้าง ไปแข่งขันกับเขาด้านวัตถุคงไม่ได้ ลองเริ่มศึกษาและแข่งขันทางศาสตร์ด้านวิญญาณดูสิครับ อีกหน่อยเราอาจผลิตน้ำมนต์ไล่ผีทุกชนิดส่งออกขายเป็นรายแรกของโลกก็ได้ อย่าดูถูกวิญญาณศาสตร์เชียว