6-4 ตี่มาหาครั้งที่สอง
บทที่ 6 รักรันทดของตี่
6-4 ตี่มาหาครั้งที่สอง
เรื่องของตี่ยังไม่จบครับ วันรุ่งขึ้นผมได้ทำสมาธิแผ่เมตตาให้ตี่อีก คราวนี้ผมระบุเจาะจงลงไปเลยว่า ให้ตี่มารับเมตตาและกุศลจากผมโดยตรง พอพูดจบผมก็เผลอหลับไป ในช่วงที่หลับแต่ยังรู้สึกตัวอยู่นั้น ผมรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงใครมาพูดทางจิตว่า ตี่เขามารับการแผ่เมตตาจากผมโดยตรงไม่ได้ในช่วงนี้
ในฝันของผม ผมยังรู้ตัวเองอยู่ว่า ผมไม่ได้พูดอะไรเองหรือคิดไปเอง แต่วิญญาณที่พูดกับผมอยู่นั้นเป็นคนพูด อย่างไรก็ตามผมไม่ทราบว่าวิญญาณดวงนั้นเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เพราะเขาไม่ยอมเข้าใกล้ตัวผม ส่งแต่กระแสจิตมาแบบห่างๆ ทำให้ผมจินตนาการถึงรูปลักษณ์ของเขาไม่ได้ วิญญาณในฝันของผมนั้น พยายามถามผมหลายครั้งว่า จะเอาอย่างไรกับการแผ่เมตตาและกุศลที่ผมทำให้ตี่ ตอนนั้นผมง่วงมาก ผมเลยหลุดปากไปว่า ก็ให้ตี่เขาไปก็แล้วกัน ไม่ต้องให้เขามารับเองโดยตรงจากผมก็ได้ พอผมพูดจบ อำนาจการอำหรือการติดต่อกับวิญญาณดวงนั้นก็สลายหายไปทันที
หนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น ตี่จึงมาหาผมอีก คราวนี้ผมรู้สึกว่า ตี่เปลี่ยนไป เปลี่ยนไปจริงๆ เขากลายเป็นเทพในภูมิที่สูงขึ้นมาก ผมได้กลิ่นหอมของดอกไม้จากตัวเขาด้วย เขาแค่สัมผัสแขนขวาผมเบาๆแบบเกรงใจ ผมก็รับทราบในความสุขและภพภูมิที่เขาอยู่แล้ว
แต่เพื่อความไม่ประมาท ผมเลยลองลงไปนอนที่โซฟาชั้นล่างเพื่อให้เขาตามลงมา เพราะที่ด้านล่างอากาศมันอับกว่าด้านบน การได้กลิ่นมันจะชัดเจน ตี่เขาก็ตามผมลงมาจริงๆ คราวนี้ผมดมดูจนทั่วบริเวณรอบๆโซฟาของผม ผมพบว่านอกจากกลิ่นดอกไม้ที่หอมมากแล้ว ยังมีกลิ่นน้ำหอมด้วย แต่ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอม ผมจึงบอกไม่ได้ว่า กลิ่นนั้นเป็นกลิ่นน้ำหอมชนิดไหน อ้อ! ที่บ้านผมไม่มีใครใส่น้ำหอม ดอกไม้จริงๆ ก็ไม่มี ผมไม่ได้กลิ่นความหอมใดๆ ในบ้านมาเป็นเวลานานหลายสิบปีแล้ว นอกจากกลิ่นหอมของแป้งเด็กโคโดโมะที่หลานผมใช้ทาตัว แต่กลิ่นมันต่างจากนี้เยอะ
แม้ว่าเคยเจอวิญญาณมามาก แต่วิญญาณในภูมินี้ผมเคยเจอเพียงครั้งเดียว คือเมื่อสัปดาห์ก่อน ตอนที่วิญญาณดวงหนึ่งที่ไม่ทราบเพศ ไม่ยอมให้ผมเข้าใกล้ตัว แต่อุตส่าห์นำข่าวสารเรื่องตี่มาบอกทางใจกับผมว่า ตอนนั้นตี่ยังมาหาผมไม่ได้ ติดธุระอยู่ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้สัมผัสตัวหรืออยู่ใกล้วิญญาณดวงนั้น แต่ทว่า กระแสจิตที่ปล่อยออกมาจากวิญญาณก็สามารถชี้ภพภูมิได้ว่า วิญญาณดวงนี้น่าจะมาจากสวรรค์ที่เดียวกับตี่
ตอนนั้นผมไม่แน่ใจภพภูมิที่ตี่อยู่จริงๆ แต่ผมไม่อยากไปสันนิษฐานอะไร ผมต้องสืบข้อมูลดูก่อน แล้วเรื่องหน้าด้านนี่ผมถนัดอยู่แล้ว ดังนั้นผมเลยถือวิสาสะด้วยความอยากรู้ภพภูมิของตี่ ผมได้โทรไปหาคุณแม่ของอดีตเจ้าสาวตี่ ท่านคงงงๆว่าไอ้หมอนี่เป็นใคร? ซ้ำยังไปถามคำถามส่วนตัวจากท่านว่า ตี่ได้เปลี่ยนศาสนามาเป็นแคธอริกตามแฟนเขาหรือยัง? อย่างไรก็ตามคุณแม่ท่านนี้ก็ยังใจดี ไม่ถือสาในคำถามที่ละลาบละล้วงของผม ท่านอุตส่าห์ตอบว่า ตี่ยังไม่เปลี่ยนศาสนา เพราะครอบครัวของเขาไม่ได้บังคับฝืนใจใครให้เปลี่ยนศาสนาโดยไม่เต็มใจ คุณแม่ท่านยืนยันว่า ตี่ยังนับถือพุทธศาสนาอยู่ ผมเชื่อว่าคำตอบของท่านเป็นเรื่องจริง
แต่ความสงสัยในใจผมยังไม่ได้หายไป เพราะผมค่อนข้างแน่ใจทีเดียวว่า ดินแดนที่ตี่ไปอยู่นั้น ไม่ใช่สวรรค์ของชาวพุทธ แต่น่าจะเป็นดินแดนสวรรค์ของพระคริสต์ เนื่องจากระดับของความสุขของชาวพุทธในสวรรค์ชั้น 1-4 ถูกปรุงแต่งและบำรุงบำเรอด้วยกิเลส ยิ่งในสวรรค์ชั้น 5-6 ด้วยแล้ว อยากได้อะไรก็ สามารถเนรมิตสิ่งของได้ตามใจนึก ยิ่งเพิ่มกิเลสเข้าไปอีก จะมีก็แต่สวรรค์ชั้นพรหมเท่านั้นที่ละวางสิ่งเหล่านี้ได้แม้แต่เรื่องกามารมณ์
สวรรค์ที่ตี่เข้าไปอยู่ในนั้น ถ้าให้ผมอธิบาย ผมต้องอธิบายว่า เหมือนสวรรค์ของผู้บริสุทธิ์ หรือเด็กเล็ก ยังไร้เดียงสาต่อกิเลสทางโลก ซึ่งผมเคยอ่านไบเบิลเหมือนกันว่า พระคริสต์ทรงพูดถึงสวรรค์ของพระเจ้าในทำนองแบบนี้เหมือนกัน เรื่องนี้เองทำให้ผมเกิดความคิดขึ้นมาทันทีว่า ผู้ที่ไขว่คว้าความสุขทางเพศในศาสนาคริสต์ พระเจ้าอาจจำเป็นต้องส่งเขาไปเกิดใหม่บนโลกก็ได้ เพราะการร่วมรักแบบมนุษย์บนสวรรค์ของพระคริสต์อาจจะเป็นสิ่งต้องห้ามก็ได้ ไม่เหมือนสวรรค์ของชาวพุทธ
ปัญหาก็คือ แล้วตี่เข้าไปอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ก่อนตายศาสนาก็ยังไม่เปลี่ยน เรื่องนี้ผมก็ไม่ทราบ เหมือนกัน แต่พึงระลึกว่า พระเยซูคริสต์นั้นเป็นผู้เสียสละสูงสุด และพระเจ้าก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและพระเมตตา ถ้าท่านศึกษาเรื่องราวขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่กล่าวถึงในศาสนาคริสต์ดู ท่านจะพบว่าพระเจ้า ชอบทดสอบมนุษย์ แม้แต่พระเยซูซึ่งเป็นพระบุตร ท่านก็ยังให้ทดสอบโดยให้พบกับความทุกข์อย่างแสนสาหัสก่อนจะสิ้นพระชนม์
พูดตรงๆ ผมมั่นใจว่าตี่เข้าสเป็คของพระเจ้าเลย ต้องทนทุกข์ทรมานในความรัก และก็ต้องตายตามคนรักไป แต่ถึงอย่างไรในช่วงที่เป็นมนุษย์ตี่มีความศรัทธาในพุทธศาสนา ซึ่งสอนให้เชื่อในสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผล ไม่เชื่อในสิ่งที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นจริงและมีจริง ซึ่งตอนนั้นก็คือสวรรค์ของพระคริสต์และ/หรือของพระเจ้าผู้เป็นองค์แห่งความรักและเมตตา เมื่อตี่ได้รับการทดสอบตนเองด้วยชีวิต ดังเช่นเจ้าสาวของตี่ก็เหมือนกัน มีหรือที่ท่านผู้เป็นองค์แห่งความรักและความเมตตาจะไม่เห็นใจในความรักของทั้งคู่ นอกจากนี้ผมเชื่อว่า เมื่อตี่ได้เห็นสวรรค์ของพระคริสต์ การเปลี่ยนศาสนาเพื่อไปอยู่กับคนรักก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้
ในช่วงหลายปีจากนี้ ถ้าผมไม่เจอตี่อีก หรือจุดธูปอัญเชิญแล้วตี่ยังไม่มา ผมก็ต้องสันนิษฐานว่า พระเจ้าให้เขาไปเกิดแล้ว โดยมีเจ้าสาวของเขาตามไปเกิดด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น