A A

7-1 ผีต่างศาสนา

บทที่ 7 เรื่องวิญญาณอื่นๆที่น่าสนใจ
7-1 ผีต่างศาสนา
ตอนนี้น้องชายผมไปทำงานที่อิหร่าน เขาเล่าให้ฟังว่า ผีที่นั่นก็มี เข้ามาอำตัวเขาบ่อยๆ เรื่องนี้เลยทำให้ผมสนใจ แต่ผมไม่สนใจเรื่องผีหรอก ที่ผมสนใจคือ เทพในสวรรค์ของศาสนาอิสลาม ผมคิดว่าตามมัสยิดสำคัญๆ ต้องมีเทวดาประจำศาสนานั้นอยู่ ผมต้องการสัมผัสเทวดาเหล่านั้น เพื่อจะได้รู้ภพภูมิในสวรรค์ของศาสนาอิสลาม ตามประวัติศาสตร์แล้วพระอัลเลาะห์น่าจะเป็นพระเจ้าองค์เดียวกับพระยะโฮวาในศาสนาคริสต์ ดังนั้นถ้าสวรรค์ของพระคริสต์หรือของพระเจ้าในศาสนาคริสต์มีจริง สวรรค์ของพระเจ้าในศาสนาอิสลามก็ต้องมีอยู่จริงเช่นเดียวกัน ผมต้องการสัมผัสเทวดาเหล่านั้นเพื่อจะรับรู้ภพภูมิที่เขาอยู่เท่านั้น ไม่ต้องการไปยุ่งเกี่ยวกับความเชื่อและความศรัทธาในศาสนาใดๆ ทั้งสิ้น
แต่เมื่อคิดๆ ไป ผมว่าเรื่องนี้ผมอย่าไปยุ่งดีกว่า เพราะการรับรู้ในบางเรื่องอาจจะนำภัยมาสู่ตนเองและครอบครัว บางลัทธิบางศาสนาผู้คนที่เข้าไปนับถือ เขานิยมใช้ความรุนแรง แล้วผมก็เป็นพวกปากมากเสียด้วย หุบปากไม่เป็น ถ้าขืนไปยุ่งเรื่องศาสนา และไปยืนยันเรื่องสวรรค์ในศาสนานั้นๆ เผลอๆ พรสวรรค์ที่ผมได้รับจากฟ้า อาจจะกลายเป็นพรนรก นำพาผมและครอบครัวไปสู่ความวิบัติก็เป็นได้
ด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่ขอไปสัมผัสเทพในศาสนาอื่นๆ นอกจากศาสนาพุทธดีกว่า บังเอิญเทพในศาสนาคริสต์ที่ผมได้สัมผัสคนนั้นคือตี่เทพผู้นี้ผมรู้จักกับเขาตอนเป็นมนุษย์ เขาเองเป็นผู้ที่นับถือศาสนาพุทธตั้งแต่เกิดจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตบนโลก การไปอยู่ในภพภูมิสวรรค์ของพระคริสต์เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยคาดฝันมาก่อน และเขาก็เต็มใจแสดงภพภูมิของเขาให้ผมรู้ ในขณะที่ก่อนหน้านี้มีเทพในสวรรค์ของพระคริสต์อีกรายที่พยายามพูดคุยกับผมทางจิต แต่เป็นระยะไกล เขาน่าจะจงใจไม่ให้ผมได้สัมผัสตัว เขาคงจะกลัวความลับสวรรค์จะรั่วผ่านตัวเขา แต่ในกรณีของตี่ ผมมั่นใจว่า เขาได้ขออนุมัติจากพระคริสต์หรือผู้มีอำนาจท่านอื่นในสรวงสวรรค์แล้ว มิเช่นนั้น เขาคงไม่กล้าเปิดเผยแผ่นดินสวรรค์ของพระคริสต์ผ่านตัวเขาให้ผมรับรู้อย่างเต็มใจ และยังมาตรวจข้อเขียนที่ผมเขียนถึงเขาด้วย
ถ้ามีสิ่งใดที่ผิดอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องแผ่นดินสวรรค์ที่เขาอยู่ ซึ่งผมได้ยืนยันไปว่า น่าจะเป็นแดนสวรรค์ในศาสนาคริสต์ ถ้าไม่เป็นความจริงตามนั้น ผมมั่นใจว่า ตี่เขาไม่นิ่งเฉยแน่นอน เขามาหาผมได้ทุกเมื่อ และก็มาถึง 3 วัน จานวน 10 ครั้งแล้ว จะมาอีกครั้ง คงไม่เสียหาย โดยเฉพาะตอนนี้เขาก็รู้วิธีการสื่อสารกับผมด้วยจิตและสมาธิแล้วด้วย หรือถ้าให้ชัวร์ยิ่งขึ้น แค่เขาเขย่าตัวผมแรงๆเพียงครั้งเดียวหรือสองครั้ง แสดงถึงความไม่พอใจ แทนที่จะมาสัมผัสแขนผมแบบเกรงใจ เท่านั้นผมก็รับรู้แล้วว่า ข้อเขียนของผมผิด
ที่ผมเขียนเรื่องสวรรค์ของพระคริสต์ลงในหนังสือเล่มนี้ ยังไม่ถือว่าเป็นการเปิดเผยความลับสวรรค์ เพราะข้อเขียนของผมก็มีความเสี่ยงเหมือนกัน สิ่งที่ผมได้สัมผัสอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นจริงๆก็ได้ เพราะผมไม่ได้ไปเห็นมากับตา เป็นเพียงการคาดการณ์ตามหลักแห่งเหตุผลจากคนตาบอด หูหนวก และเป็นใบ้ คนหนึ่งเท่านั้นในโลกแห่งวิญญาณ
มีเรื่องอื่นๆเกี่ยวกับวิญญาณที่ผมคิดว่า ท่านผู้อ่านคงอาจจะสนใจ สามารถติดตามได้ในเรื่องต่อไป 

ความคิดเห็น