A A

7-7 การต่อสู้กับวิญญาณครั้งสุดท้าย

บทที่ 7 เรื่องวิญญาณอื่นๆที่น่าสนใจ
7-7 การต่อสู้กับวิญญาณครั้งสุดท้าย
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ3 ปีก่อนนี่เอง ผมย้ายบ้านอีกครั้งหนึ่ง หลาวสาวของผมคนหนึ่งที่ผมเล่าให้ฟังว่า ผีเด็กเคยชวนเขาไปเต้นระบำนางฟ้าตอนอายุ 3 ขวบกว่า ตอนนี้เขาโตแล้ว เรียนอยู่ธรรมศาสตร์ปี 1
หลานคนนี้มีเพื่อนนักศึกษาด้วยกันที่พูดคุยเก่งมากอยู่คนหนึ่ง ตอนนั้นพวกเขาคุยกันทางโทรศัพท์เรื่องผี โดยไม่รู้ว่า ผมกับน้องชายเจอผีกันมาเป็นพันๆครั้ง พวกผมก็เลยเล่าประสบการณ์บางเรื่องให้เขาฟังบ้าง
แต่พอเล่าไปเล่ามาผมชักมันปาก ประกอบกับเพื่อนของหลานสาวคนนี้ก็ช่างคุยและช่างซักถามจริงๆ ไปๆ มาๆ ต่อมโม้ผมก็เลยแตก ผมไปบอกว่า ผมเคยกลัวผีในช่วง 6 เดือนแรกเท่านั้น หลังจากนั้นผมไม่มีความกลัวผีอีกเลย เจอผี 10 ครั้งจะกลัวสัก 1 ครั้ง ทั้งๆที่รู้ 100% ว่าผีมีจริง อย่าว่าแต่ผีเลย ต่อให้เป็นเทวดา พระอินทร์ หรือพระพรหมผมก็ไม่กลัวทั้งนั้น
ในจังหวะที่คุยกันอยู่นั้น น้องชายผมมันหาว่าผมโม้ ก็เลยโม้ตามบ้าง ผมรู้ตัวว่า ผมพูดความจริง แต่น้องผมนั่นมีแต่โม้อย่างเดียว เจอผีมาเป็นพันครั้งเหมือนกับผม แต่ไม่ยอมศึกษาความจริงจากผีเลย ไปกลัวอยู่อย่างเดียว ไม่กลายเป็นบ้าไปก็นับว่าบุญแล้ว
ขณะที่กำลังโม้กันอยู่นั้น น้องผมอยู่ๆ ก็ง่วง ผมเห็นผิดสังเกต เข้าใจว่าต้องมีผีหรือเทพหรือเทวดาที่ทนฟังไม่ได้อยู่แถวนั้น เพราะท่าทางเหมือนน้องผมจะโดนสะกดให้หลับ น้องผมก็รับรู้ถึงการมีอยู่ของดวงวิญญาณแถวนั้นเหมือนกัน ผมเห็นท่าไม่ค่อยดี เลยบอกน้องผมให้ไปนอนก่อน ส่วนตัวผมก็ยังโม้อยู่ ผมบอกผีที่ฟังอยู่แถวนั้น ไม่ต้องไปหาน้องผมเลย ไอ้นั่นมันมีแต่ปาก ผมน่ะของจริง ไม่มีความกลัวผีใดๆ ทั้งสิ้น แล้วผมก็รู้ว่า มีวิญญาณหรือผีที่มีอำนาจอยู่แถวนั้นด้วย ให้ท่านเข้ามาเล่นงานผมได้เลย ผมจะรออยู่
กลางดึกคืนนั้น ในราวตี3 ผมก็เจอดีเข้าจนได้ มีวิญญาณดวงหนึ่งเข้ามาในห้องนอนผม ด้วยพลังและอำนาจของท่านผู้นั้น ผมค่อนข้างมั่นใจว่า ท่านไม่ใช่ผีธรรมดา แต่เป็นผีระดับเจ้าพ่อ คิดว่าศาลของท่านน่าจะเป็นศาลเจ้าใหญ่โตที่สร้างไว้ในซอยหมู่บ้านของผม วิญญาณดวงนั้นไม่ได้สัมผัสหรือเข้าใกล้ตัวผมแม้แต่น้อย เขาน่าจะอยู่ห่างผมประมาณ1 เมตร เขาทำอย่างไรไม่ทราบ รู้แต่ว่ามีผ้าอะไรมาคลุมหัวผม ซ้ำยังมีกระแสพลังอย่างหนึ่งมารัดตัวผมไว้ด้วย
วิญญาณดวงนั้นคงถือตัวว่าเป็นผู้มีฤทธิ์อำนาจ คิดจะเล่นงานใครก็ทำได้ เลยไม่ทันรู้ประวัติความร้ายกาจของผม เมื่อเป็นเช่นนี้ ผมจำเป็นต้องสำแดงความสามารถให้เจ้าพ่อท่านนี้ได้ประจักษ์บ้างว่า ผมไม่มีความกลัวใดๆ เลย พร้อมสู้อย่างเดียว ผมเข้าใจว่าส่วนหนึ่งของพลังอำนาจที่เกิดขึ้นในโลกวิญญาณ น่าจะเกิดจากการสร้างภาพที่เหมือนจริงขึ้นในหัว แล้วใช้ความศรัทธาและเชื่อมั่นทำให้มันเกิดเป็นจริงขึ้นมา เป็นแนวทำงแบบเดียวกับวิชาของลำมะทิเบต ซึ่งผมถนัดอยู่แล้วเรื่องนี้
ผมจึงตะโกนเรียกทำงใจว่า ไฟนรกแล้วก็สั่งทำงจิตว่า เผา ทันใดนั้นผมก็รู้ทันทีว่า วิญญาณดวงนั้นโดนเข้าแล้ว เขาคงตกใจ คลายมนตร์คาถาหรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วรีบออกจากบริเวณที่ผมอยู่ทันที
แต่ไม่ใช่ผมคนเดียวเท่านั้นที่เรียกไฟได้ ผมรู้ว่าวิญญาณเจ้าพ่อท่านนั้นคงจะเรียกไฟมาเผาผมเช่นกัน เพราะผมรู้สึกร้อนมากแม้ว่าจะหลุดจากอาการผีอำแล้ว จะไปเปิดแอร์ตอนนั้นก็คงไม่ทัน ผมเลยลุกไปนอนที่ห้องน้องชายเพื่อประหยัดแอร์ และรับความเย็นจัดที่อยู่ในห้องของน้องชาย
น้องผมดันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ผมก็เล่าให้เขาฟัง น้องผมคิดไปว่าผมกลัว เลยหลบมานอนห้องเขา แล้วเขาก็โม้ว่า เอ็งต้องใช้วิชาธรรมกายกำหนดลูกแก้วอะไรทำนองนี้ ผมรู้ว่า เขาโม้อย่างเดียว ผมน่ะของจริง แต่พูดไปกี่สิบปีเขาไม่เคยเชื่อผมสักที ไปจำเอาอดีตสมัยเมื่อผมกลัวผีมาพูด ผมกับเขาเลยคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง
พอตากแอร์สักพักหนึ่งจนเย็นได้ที่แล้ว ผมก็ไปนอนที่ห้องนอนผมต่อ ในใจของผมต้องการลองของกับวิญญาณที่มีฤทธิ์อำนาจนั้นต่ออีกสักหน ครั้งก่อนเขาสู้ผมไม่ได้ เพราะเขาไม่ทันระวังตัว ไม่คิดว่าผมก็มีดีเหมือนกัน คราวนี้ผมต้องพิสูจน์กับเขาให้เห็นดาเห็นแดงกันไปเลยว่า ผมจะสู้เขาได้ไหม ผมจะไม่ยอมท่องรัก เมตตา กรุณา และให้อภัยอย่างเด็ดขาด เพราะนั่นเป็นวิธีที่ทำให้ผมหลุดจากอำนาจการอำทุกชนิด แต่วันนี้ไม่ใช่วันที่ผมจะหลบต่อไปแล้ว ผมขอสู้ตายอย่างเดียว อยากเจอพลังของวิญญาณที่แกร่งกล้าระดับเซียนมานานแล้ว นานๆ จะได้เจอสักที
ผมนอนรอแล้วรออีก ก็ไม่ปรากฏวิญญาณเจ้าพ่อท่านนั้นออกมาสักที แต่คนที่โผล่มาในห้องของผมกลับเป็นน้องชายของผมเอง เขาเล่าว่า เจอวิญญาณเจ้าพ่อที่ผมเล่าให้เขาฟัง เสกงูหรือเชือกมารัดตัวเขาไว้ และเขาก็โม้อย่างอื่นไปเรื่อยๆ
ผ่านมาอีก2 เดือน เวลาที่ผ่านมา 2 เดือนนั่น ทั้งน้องชายผมและพี่ชายผมรวมทั้งตัวผมเจอผีลูกน้องเจ้าพ่อที่ศาลเจ้าใหญ่นั่นเข้าอำเรื่อย ผมขู่วิญญาณลูกน้องเจ้าพ่อนั่นไปแล้วว่า ถ้ามาอีกผมจะเรียกไฟนรกมาเผาเขา เขาก็ไม่ได้มาหาผมอีก แต่ยังรบกวนน้องชายผมอยู่

ความคิดเห็น